2021 MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) รถเอสยูวีพลังงานปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ด้วยราคาจำหน่าย 1.359 ล้านบาท
รูปลักษณ์ภายนอกที่คุ้นตาดีอยู่แล้ว
เอชเอส พีเอชอีวี ถูกพัฒนาบนโครงสร้างพื้นฐานของเอชเอสรุ่นปัจจุบัน มีการติดตั้งตำแหน่งปลั๊กเสียบชาร์ตไฟจะอยู่ที่ด้านขวาของรถ ซึ่งกระจังหน้าของรถคันนี้ยังเป็นแบบมีช่องระบายอากาศอยู่ เนื่องจากยังต้องการการระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์
มิติตัวถังนั้นกว้าง 1,876 มิลลิเมตร ยาว 4,574 มิลลิเมตร สูง1,664 มิลลิเมตร มาพร้อมระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,720 มิลลิเมตร ยังคงรักษาความกว้างขวางของตัวรถเอาไว้เหมือนเช่นเดิม เปลี่ยนไปก็แค่ลายของล้ออัลลอยซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน ไฟท้าย LED Space Light Field ที่มีความโฉบเฉี่ยวและไฟเลี้ยวแบบ Sequential และมาพร้อมล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Thunder Wing Blade ขนาด 18 นิ้ว
เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่น่าใช้งาน
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1,490 ซีซี. ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นเดียวกันกับที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน แต่เสริมแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลังสูงสุดเมื่อทำงานร่วมกัน 284 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ไฟฟ้า 10 สปีด
มอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมนวัตกรรม Hairpin Design พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 16.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถเลือกขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ไกลสูงสุดถึง 67 กิโลเมตร มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่ 65 กิโลเมตรต่อลิตร
หมดการขับขี่มีถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด EV และโหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport ที่สามารถเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ทำได้ภายในเวลา 7.5 วินาที ชาร์จไฟบ้านจนเต็มได้ภายใน 5.5 ชั่วโมง
ห้องโดยสารน่าใช้งานอยู่เหมือนกัน
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทน ใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยวัสดุซอฟท์ทัชผิวสัมผัสนุ่มนวล เบาะหนังคู่หน้าแบบสปอร์ตบั๊กเก็ตซีท ตกแต่งด้วยวัสดุอัลคันทาร่า เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
เพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space เพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก พร้อมหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา กินพื้นที่เกือบ 90% พร้อมจอแสดงผลอัจฉริยะ 12 นิ้ว
จอควบคุมกลางแบบทัชกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound System ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 และฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
ระบบความปลอดภัยล้นคัน
ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปกว่า 25 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ 11 ระบบ โดยมีไฮไลท์ที่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2
กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา ประกอบด้วยระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู รวมถึงกลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน
ประกอบด้วยระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และกลุ่มระบบช่วยในการขับขี่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่
MG มอบการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี ไม่จำกัดระยะทางซึ่งเหนือกว่าคู่แข่ง พร้อมประกันตัวรถ 4 ปีหรือ 120,000 กม. เหนือกว่าคู่แข่ง ลูกค้าที่จองภายในสิ้นปีนี้รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ติดตั้งฟรีถึงบ้าน
อ่านเพิ่มเติมที่: https://bit.ly/3yktsFT
==========================
ติดตามพวกเราได้ที่
Website: https://www.autofun.co.th/
Facebook: https://www.facebook.com/autofunth
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCMWm8ERmCCnKNY8d8J2TrK
#MG #MGHS #MGHSPHEV
รูปลักษณ์ภายนอกที่คุ้นตาดีอยู่แล้ว
เอชเอส พีเอชอีวี ถูกพัฒนาบนโครงสร้างพื้นฐานของเอชเอสรุ่นปัจจุบัน มีการติดตั้งตำแหน่งปลั๊กเสียบชาร์ตไฟจะอยู่ที่ด้านขวาของรถ ซึ่งกระจังหน้าของรถคันนี้ยังเป็นแบบมีช่องระบายอากาศอยู่ เนื่องจากยังต้องการการระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์
มิติตัวถังนั้นกว้าง 1,876 มิลลิเมตร ยาว 4,574 มิลลิเมตร สูง1,664 มิลลิเมตร มาพร้อมระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,720 มิลลิเมตร ยังคงรักษาความกว้างขวางของตัวรถเอาไว้เหมือนเช่นเดิม เปลี่ยนไปก็แค่ลายของล้ออัลลอยซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน ไฟท้าย LED Space Light Field ที่มีความโฉบเฉี่ยวและไฟเลี้ยวแบบ Sequential และมาพร้อมล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Thunder Wing Blade ขนาด 18 นิ้ว
เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่น่าใช้งาน
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1,490 ซีซี. ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นเดียวกันกับที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน แต่เสริมแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลังสูงสุดเมื่อทำงานร่วมกัน 284 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ไฟฟ้า 10 สปีด
มอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมนวัตกรรม Hairpin Design พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 16.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถเลือกขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ไกลสูงสุดถึง 67 กิโลเมตร มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่ 65 กิโลเมตรต่อลิตร
หมดการขับขี่มีถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด EV และโหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport ที่สามารถเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ทำได้ภายในเวลา 7.5 วินาที ชาร์จไฟบ้านจนเต็มได้ภายใน 5.5 ชั่วโมง
ห้องโดยสารน่าใช้งานอยู่เหมือนกัน
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทน ใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยวัสดุซอฟท์ทัชผิวสัมผัสนุ่มนวล เบาะหนังคู่หน้าแบบสปอร์ตบั๊กเก็ตซีท ตกแต่งด้วยวัสดุอัลคันทาร่า เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
เพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space เพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก พร้อมหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา กินพื้นที่เกือบ 90% พร้อมจอแสดงผลอัจฉริยะ 12 นิ้ว
จอควบคุมกลางแบบทัชกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound System ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 และฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
ระบบความปลอดภัยล้นคัน
ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปกว่า 25 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ 11 ระบบ โดยมีไฮไลท์ที่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2
กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา ประกอบด้วยระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู รวมถึงกลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน
ประกอบด้วยระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และกลุ่มระบบช่วยในการขับขี่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่
MG มอบการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี ไม่จำกัดระยะทางซึ่งเหนือกว่าคู่แข่ง พร้อมประกันตัวรถ 4 ปีหรือ 120,000 กม. เหนือกว่าคู่แข่ง ลูกค้าที่จองภายในสิ้นปีนี้รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ติดตั้งฟรีถึงบ้าน
อ่านเพิ่มเติมที่: https://bit.ly/3yktsFT
==========================
ติดตามพวกเราได้ที่
Website: https://www.autofun.co.th/
Facebook: https://www.facebook.com/autofunth
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCMWm8ERmCCnKNY8d8J2TrK
#MG #MGHS #MGHSPHEV
- หมวดหมู่
- Film
เข้ามาเป็นคนแรกสำหรับการแสดงความเห็นวิดีโอนี้